ในปี 2565 นี้แทบจะไม่มีใครไม่พูดถึงสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เรียกกันว่า ‘บิทคอย’ ‘บล็อกเชน’ หรือ ‘คริปโตเคอเรนซี’ ทั้งสายเทรดและสายถือ ต่างก็มุ่งหวังการทำกำไรจากวงการลงทุนน้องใหม่นี้กันอย่างล้นหลาม แต่ความเสี่ยงสูงย่อมลุ้นผลตอบแทนที่สูงกว่าด้วย ก่อนจะลงทุนจึงควรรู้จักกับการลงทุนในรูปแบบนี้ก่อน อาทิ Bitcoin คืออะไร หรือบล็อกเชนสำคัญแค่ไหน เกี่ยวกับคริปโตยังไง เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดประกอบด้วย 3 สิ่งสำคัญได้แก่
คริปโตเคอเรนซี
คือ เหรียญหรือสกุลเงินตราประเภทเข้ารหัสลับ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยน ซื้อขาย โอน หรือทำธุรกรรมในโลกของดิจิทัล การทำงานของสกุลเงินดิจิทัล คริปโตเคอเรนซี สกุลเงินต่างๆจะถูกบันทึกไว้ในระบบที่เรียกว่าบล็อกเชน เพื่อช่วยให้สกุลเงินต่างๆมีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัยและได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านคนกลาง สกุลเงินที่รู้จักกันมากที่สุดได้แก่ บิทคอย , Ethereum , bitcoin Cash , Cardano เป็นต้น และยังทำการซื้อขายผ่านบล็อกเชนนั่นเองบิทคอยน์ , Ethereum , bitcoin Cash , Cardano เป็นต้น และยังทำการซื้อขายผ่านบล็อกเชนนั่นเอง , Ethereum , bitcoin Cash , Cardano เป็นต้น และยังทำการซื้อขายผ่านบล็อกเชนนั่นเอง
บิทคอย
จัดว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซีประเภทหนึ่ง ซึ่งอยู่ในรูปแบบดิจิทัลและเป็นสกุลเงินที่ต้องผ่านการเข้ารหัส โดยผ่านระบบ Blockchain ซึ่งจะทำหน้าที่ในการบันทึกรายการโอนเงิน หรือการทำธุรกรรมทางการเงินบนโลกเครือข่ายอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ bitcoin ยังถือเป็นเหรียญที่เกิดขึ้นมาเป็นเหรียญแรก ในวงการคริปโตเคอเรนซี ในปี 2008 โดย Nakamoto Satoshi ต้องการลดปัญหาการเงินเฟ้อ ดังนั้น Bitcoin ถูกซื้อขายผ่าน บล็อกเชน นั่นเอง
บล็อกเชน
คือ การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลแบบกระจายศูนย์ หรือที่เรียกว่า Distributed Ledger Technology (DLT) สามารถสร้างระบบการกระจายอำนาจความเชื่อใจของตัวกลาง ทำให้ไม่เกิดตัวกลางคนใดคนหนึ่งอีกต่อไป เป็นการทำธุรกรรมแบบ Peer to Peer โดยทุกคนสามารถเข้าถึงระบบข้อมูล ในบัญชีเล่มเดียวกัน ทำให้ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงการใช้งานได้อย่างเท่าเทียม มีความโปร่งใสในการเปลี่ยนแปลงและ ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ ไร้พรมแดนในการทำธุรกรรมด้านสินทรัพย์ นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและเป็นที่มาของกำไรค่อนข้างสูง
ก่อนจะลงทุนกับกระดานเทรดเหรียญ คริปโต หรือ บิทคอย ควรศึกษาข้อมูลดังนี้
1.เลือกแพลตฟอร์มที่มีใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. เพื่อความปลอดภัยในสินทรัพย์ของท่าน
2.เลือกกระดานเทรดที่มีเหรียญหรือสกุลเงินที่ท่านต้องการ ท่านสามารถเลือกดูเหรียญบนกระดานเทรดก่อนสมัครได้
3.ความเสถียรภาพและความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม สามารถฝาก ถอน เทรดเหรียญของท่านได้ 24 ชม.หรือไม่ มีบริการหรือความช่วยเหลือรวดเร็วหรือไม่
4.แพลตฟอร์มมีการให้ข้อมูลข่าวสาร อัปเดตและจริงเท็จมากน้อยแค่ไหน น่าเชื่อถือหรือข่าวลวง
5.ศึกษาคำศัพท์ที่ใช้ในวงการคริปโตเช่น ติดดอย หมายถึง เข้าซื้อเหรียญในช่วงที่แพง และราคาเหรียญกลับตกร่วงลงมาเรื่อย ๆ จนถ้าขายอาจจะขาดทุนได้
6.ศึกษาเรื่องการเสียภาษีคริปโต ซึ่งปัจจุบันมีการออกกฎหมายเรื่องภาษีคริปโตออกมาแล้วว่า ผู้มีเงินได้จากกำไรคริปโตจำเป็นต้องเสียภาษีและยื่นภาษีตามปีรายได้อยู่ที่ 15% แต่ทั้งนี้ก็มีผู้ประกอบการและผู้ลงทุนไม่เห็นด้วยและกำลังยื่นเสนอกับทางสรรพากรพิจารณาใหม่อีกครั้ง ดังนั้นควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
7.เงินลงทุน ควรเป็นเงินเย็น คือเงินที่สามารถสูญเสียได้ เมื่อเงินส่วนนี้หายไป
บทสรุป
การเทรดหรือการลงทุนใน บิทคอย อาจจะยังใหม่สำหรับหลาย ๆ ท่าน และแน่นอนว่าการลงทุนในสินทรัพย์ทั้งหลายไม่ว่าจะหุ้น หรือคริปโตก็ดี ล้วนมีความเสี่ยงสูง กรณีที่ท่านลงทุนโดยไม่มีความรู้หรือความเข้าใจที่ถูกต้อง อาจจะสูญเงินไปกับการลงทุนนั้น ๆ ได้ ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยของเงินในกระเป๋าคุณ
Credit : www.commentsmoives.com www.fashiontrendth.co www.cameragooru.com www.lakewoodairductcleaning.com www.goorucrypto.com
