Binance กับ Bitkub ต่างกันอย่างไร Binance คืออะไร?ไบแนนซ์ (Binance) คือ แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 ในฮ่องกง ผู้ก่อตั้งคือ จางเผิงเจ้า (Changpeng Zhao) นักธุรกิจชาวแคนาดาเชื้อสายจีน ซึ่งในปัจจุบันเขาได้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีระดับพันล้านอันดับที่ 11 ของโลก และอันดับ 1 มหาเศรษฐีในวงการคริปโตเคอร์เรนซี ที่มีทรัพย์สินถึง 3.205 ล้านล้านบาท ชื่อ “Binance” เป็นการรวมกันของคำว่า “Bitcoin” และ “Finance” ผู้พัฒนาเผยว่าได้พัฒนาแพลตฟอร์มนี้ขึ้นเพื่อให้มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัยระดับสูง มีด้วยฟังก์ชันหลากหลายให้เลือกใช้งาน มีการประมวลผลที่รวดเร็ว และเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ความสำคัญกับการซื้อขาย Altcoin หรือ สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่เกิดขึ้นหลังจาก Bitcoin ทั้งยังให้บริการซื้อขายแบบ Crypto-to-Crypto ซึ่งใน Binance มีสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ มากกว่า 600 สกุลและโทเค็น (Token) รวมถึงเหรียญดิจิตอลยอดนิยมอย่าง Bitcoin (BTC), Ether (ETH), Litecoin (LTC), Dogecoin (DOGE) และโทเค็น Binance Coin (BNB) ของแพลตฟอร์มเอง
Binance กับ Bitkub ต่างกันอย่างไร Bitkub คืออะไร?
Bitkub เป็นตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล คือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลของไทยที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งทำให้ง่ายต่อการซื้อสกุลเงินดิจิทัลด้วยเงินบาท Bitkub ก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะพาเราเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยให้บริการคุณภาพสูงแก่สาธารณะเพื่อให้สามารถซื้อ-ขาย และจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลได้ บริษัทจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยทุนจดทะเบียน 290 ล้านบาท และมีสำนักงานในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ที่บุคคลทั่วไปสามารถรับบริการได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ให้บริการซื้อ-ขายเหรียญหรือโทเค็นคุณภาพสูง มีกระเป๋าเงิน crypto สำหรับการฝากและถอนเงิน มีกระเป๋าเงินบาทสำหรับการฝากและถอนเงิน มีวิธีการชำระเงินที่ถูกต้องเพื่อซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเป็นเงินบาท ทีมสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้ค้านั้นสามารถเข้าถึงตลาดไทยได้ Bitkub สนับสนุนสภาพคล่องจะทำการค้าโทเค็น THB ในสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกรรมระหว่างโทเค็น
Binance VS Bitkub
ด้านค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายต่อครั้งกับ Binance นั้น จะถูกแบ่งเป็นหลายระดับ ในระดับ VIP 0 จะอยู่ที่ 0.1% ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ไปจนถึง VIP 9 อยู่ที่ 0.02% สำหรับผู้ขาย และ 0.04% สำหรับผู้ซื้อ ระดับของผู้ใช้งานของ Binance จะแบ่งจาก VIP 0 จนถึง VIP 9 ขึ้นอยู่กับ VOLในการเทรดภายใน 30 วัน ยิ่งเทรดมากก็จะยิ่งถูก มีเหรียญ BNB เหรียญประจำแพลตฟอร์ม ที่สามารถใช้เป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมได้ถึง 25% ในส่วนของ Bitkub จะเก็บค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 0.25% ฟรีในการถอนเหรียญต่างๆ ออกจากแพลตฟอร์ม และแต่ละเหรียญจะมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันออกไป
ด้านสภาพคล่องของแพลตฟอร์ม
ในด้านสภาพคล่องของกระดานเทรดหรือปริมาณการซื้อขาย Binance นั้นจะมี Vol โดยเฉลี่ยมากกว่า Bitkub มาก เพราะ Binance เป็นแพลตฟอร์มซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิตอลอันดับหนึ่ง ที่คนทั่วโลกใช้บริการ มี Vol การซื้อขายภายใน 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 21,887,688, 108 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกในด้านปริมาณการซื้อ-ขาย ส่วน Bitkub มี Vol การซื้อขายภายใน 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 138,790,339 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นอันดับที่สิบสามของโลกในด้านปริมาณการซื้อ-ขายเหรียญดิจิตอล
การฝากเงินเข้าแพลตฟอร์ม
ในการฝากเงิน Fiat เข้าไปในแพลตฟอร์มนั้น Binance จะมีระบบ P2P ผู้ใช้งานในไทยจะต้องซื้อ-ขายเหรียญโดยผ่านระบบ P2P ในหมวดของ Funding โดยปกติแล้วจะซื้อ Stable Coins เช่น USDT หรือ BUSD โดยจะต้องโอนเงินบาทให้ผู้ขายทางบัญชีธนาคาร จากนั้นก็ต้องรอผู้ขายปล่อยเหรียญ และจะได้รับเหรียญในหมวดของ Funding จากนั้นก็โอนจากกระเป๋า Funding เข้าสู่กระเป๋า Spot เพื่อสามารถซื้อ-ขายเหรียญ นำเหรียญไป Staking หรือนำไปเทรด Futures ได้ ถ้าหากไม่อยากทำธุรกรรมผ่านระบบ P2P ก็จะมีอีกวิธีหนึ่งคือการโอนเงินบาทเข้าบัญชีกระดานเทรดไทย เช่น Satang Pro หรือ Bitkub แล้วโอนเหรียญไปที่ Binance ได้ แต่ขั้นตอนนี้อาจจะยุ่งยากเล็กน้อย แต่ค่อนข้างมีความปลอดภัยกว่าระบบ P2P ในส่วนของ Bitkub ผู้ใช้งานจะต้องฝากเงินบาทไทยเข้าไปในระบบโดยตรงได้เลย แล้วทาง Bitkub จะแสดงผลในแอปเป็นเงินบาทให้เห็นเลย และมีการแสดงมูลค่าของเหรียญดิจิตอลต่างๆ เป็นเงินบาทด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานในไทย เมื่อฝากเงินเข้ากระดานเทรดเรียบร้อบแล้ว ผู้ใช้งานสามารถซื้อ-ขายเหรียญดิจิตอลได้โดยทันที
เหรียญดิจิตอลทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม
Binance มีเหรียญดิจิตอลมากกว่า 600 เหรียญและเหรียญคู่สำหรับเทรดมากกว่า 1,500 คู่ Bitkub มีเหรียญทดิจิตอลมากกว่า 60 เหรียญและและเหรียญคู่สำหรับเทรดมากกว่า 60 คู่
Chains ต่างๆบนแพลตฟอร์ม
สำหรับ Binance จะมี Chains ต่างๆ ให้โอนเหรียญไปเยอะกว่า Bitkub มาก เพราะมีเหรียญอยู่บนแพลตฟอร์มมากกว่า Chains ที่เป็นนิยมมีดังนี้
- BEP2 คือตัวย่อของ Binance Chain
- BEP20 คือตัวย่อของ Binance Smart Chain (BSC)
- ERC20 คือตัวย่อของ Ethereum Chain
- BTC คือตัวย่อของ Bitcoin
- Polygon Chain เหรียญของ Chain คือ Matic
ส่วน Chains ยอดนิยมของ Bitkub มีดังนี้
- Bitkub Chain เหรียญของ Chain คือ Kub
- BEP2 คือตัวย่อของ Binance Chain
- BEP20 คือตัวย่อของ Binance Smart Chain (BSC)
- ERC20 คือตัวย่อของ Ethereum Chain
- BTC คือตัวย่อของ Bitcoin
ด้านความปลอดภัย
ด้านความปลอดภัย Binance มีการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ขั้นตอน (2FA) มีระบบการยืนยันตัวตนแบบ KYC มีการยืนยันตัวตนจาก E-mail และ SMS แต่ไม่ได้รับการรับรองจาก กลต.ไทย และไม่มีสำนักงานในไทย ส่วน Bitkub มีฟังก์ชันทั้งหมดของ Binance แต่ที่ต่างออกไปปคือ Bitkub ได้รับการรับรองจาก กลต.ไทย และมีสำนักงานในไทย
Binance กับ Bitkub ต่างกันอย่างไรและมีข้อได้เปรียบต่างกันอย่างไร
Binance มีข้อได้เปรียบกว่า Bitkub ที่จะมีลูกเล่นต่างๆ ให้เลือกใช้ได้มากกว่า เช่น Staking ที่มีแบบ Locked Staking และ Flexible Staking ซึ่งผู้ใช้ต้องนำเหรียญดิจิตอลไปฝากเพื่อได้รับดอกเบี้ย ถ้าหากเลือกแบบ Locked ผู้ใช้ต้องฝากเหรียญในกรอบเวลาที่กำหนด เช่น 30 60 หรือ 90 วันตามลำดับ แต่ก็สามารถถอนได้ทุกเมื่อตามที่ต้องการ แต่จะไม่ได้รับดอกเบี้ยใดๆ และแบบ Locked นี้จะได้ดอกเบี้ยสูงกว่าเมื่อเทียบกับแบบ Flexible ส่วนแบบ Flexible ผู้ใช้สามารถอนเหรียญออกได้ตลอดเวลา และจะได้รับดอกเบี้ยอีกด้วย แต่จะได้น้อยกว่าแบบ Locked ยังมีระบบ V ซึ่งจะเป็นการนำเหรียญ bnb มาฝากไว้ทำไฟแนนซ์ก็จะนำเรียนดังกล่าวไปเข้าร่วมเวลามีโปรเจคใหม่มาแจกเหรียญต่างๆพร้อมทั้งให้ดอกเบี้ยเป็น bnb ด้วยเรียกได้ว่าวันสต๊อป เซอร์วิสที่น่าสนใจที่สุด
ทั้ง Binance ยังมีฟังก์ชัน Lanchpool คือ การนำเหรียญดิจิตอลไปฝากและได้รับผลตอบแทนในรูปแบบเหรียญอื่นๆ ตัวอย่างเหรียญที่สามารถฝากได้ เช่น BNB, DOT, BUSD, และ LIT โดยที่ผู้ใช้จะยังมีเหรียญที่ฝากจำนวนเท่าเดิม แต่จะได้รับเหรียญอื่นมาด้วยหลังจากที่ฝากครบกำหนด โดยที่สามารถเข้า Lanchpool ที่ระบบ Earn
Credit by : ทางเข้า Ufabet Ufabet Ufabet เว็บหลัก สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์