Binance คือ

Binance เนื่องจาก Cryptocurrency กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน แต่ยังขาดสื่อกลางในการซื้อ – ขาย และแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิตอล ดังนั้นจึงได้มีนักพัฒนาคิดค้นแพลตฟอร์มในการซื้อ-ขายและแลกเปลี่ยนเหรียญ
ดิจิตอลขึ้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน ให้สามารถแปลงเงิน Fiat หรือเงินที่เราใช้กันอยู่ทั่วไปเป็นเหรียญดิจิตอล เพื่อทำธุรกรรมในประเทศหรือต่างประเทศได้ในค่าธรรมเนียมที่ถูกมาก

วันนี้เราจะมาแนะนำแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งของโลก หรือก็คือไบแนนซ์ (Binance) นั่นเอง ผู้ก่อตั้งคือ จางเผิงเจ้า (Changpeng Zhao)  นักธุรกิจชาวแคนาดา เชื้อสายจีน ซึ่งในปัจจุบันเขาได้ขึ้นแท่น เป็นหนึ่งในมหา
เศรษฐีระดับพันล้านอันดับที่ 11 ของโลก และอันดับ 1 มหาเศรษฐี ในวงการคริปโตเคอร์เรนซี ที่มีทรัพย์สินถึง 3.205 ล้านล้านบาท เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมาว่า The Wall Street Journal เผยมูลค่าของคริปโตเคอร์เรนซี ที่
จางเผิงเจ้าถืออยู่ ซึ่งอาจจะมีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านบาท หากนับรวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของเขา เขาอาจจะมีรายชื่ออยู่ใน 10 อันดับมหาเศรษฐี ที่รวยที่สุดในโลก

Binanceคือ แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 ในฮ่องกง แพลตฟอร์มให้ความสำคัญกับการซื้อขาย Altcoin หรือ สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่เกิดขึ้นหลังจาก Bitcoin ทั้งยังให้บริการซื้อขายแบบ Crypto-to-Crypto ซึ่งในBinance มีสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ มากกว่า 600 สกุลและโทเค็น (Token) รวมถึงเหรียญดิจิตอล ยอดนิยมอย่าง Bitcoin (BTC), Ether (ETH), Litecoin (LTC), Dogecoin (DOGE) และโทเค็น BinanceCoin (BNB) ของแพลตฟอร์มเอง และในปี 2562 ทางบริษัทได้ย้ายสำนักงานใหญ่ของบริษัทไปที่ มอลตา สหภาพยุโรป เพื่อตอบสนองต่อกฎระเบียบที่เข้มงวดของจีน เกี่ยวกับธุรกิจแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิตอล

มาทำความรู้จักกับ Binance กัน

ชื่อ “Binance” เป็นการรวมกันของคำว่า “Bitcoin” และ “Finance” ซึ่งผู้พัฒนาเอ่ยว่า ได้พัฒนาแพลตฟอร์มนี้ขึ้นเพื่อให้มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัยระดับสูง มีด้วยฟังก์ชันหลากหลายให้เลือกใช้งาน และมีการประมวลผลที่รวดเร็ว มีสกุลเงินดิจิตอลกว่า 600 เหรียญ เช่น Bitcoin, Ethereum, Litecoin และโทเค็น BNB ของทางแพลตฟอร์ม

Binanceเป็นที่รู้จักกันเป็นหลักในการซื้อขาย Crypto-to-Crypto ผู้ใช้สามารถเทรดเหรียญดิจิตอลได้แบบเหรียญคู่ เช่น BTC/BUSD, ETH/BUSD, SOL/USDT, และ BNB/ETH เป็นต้น อีกทั้งBinance ยังเป็นแพลตฟอร์ม ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่มี ค่าธรรมเนียมที่ถูกที่สุด ในหมวดหมู่แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอื่น ๆ เช่น Coinbase, Gate IO, และ KuCoin เป็นต้น แพลตฟอร์มมีสภาพคล่องสูง มีโปรโมชั่น และมีส่วนลดมากมายแก่ผู้ใช้งานอีกด้วย 

Binance คือ

เหรียญ Binance (BNB) คืออะไรและใช้ทำอะไร

BinanceCoin (BNB) เป็นโทเค็นภายในของแพลตฟอร์มBinance มันถูกใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ บนแพลตฟอร์ม เหรียญเปิดตัวในระหว่างการเสนอเหรียญเริ่มต้น (ICO) ในเดือนกรกฎาคม 2561Binance เสนอโทเค็น BNB 20 ล้านเหรียญให้กับนักลงทุนระดับ Angel และ 80 ล้านโทเค็นให้กับทีมผู้ก่อตั้ง และอีก 100 ล้านโทเค็นที่เหลือให้กับผู้เข้าร่วมต่างๆ ผ่านกระบวนการ ICO

เงินทุนเกือบครึ่งที่ระดมทุนได้ในระหว่างกระบวนการ ICO นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้สำหรับการสร้างแบรนด์และการตลาดของBinance ในขณะที่ประมาณหนึ่งในสามถูกใช้เพื่อสร้างแพลตฟอร์มBinance และดำเนินการอัพเกรดที่จำเป็นต่อระบบนิเวศของ Binance

BNB ทำงานบนบล็อกเชน Ethereum ด้วยมาตรฐาน ERC 20 และมีโทเค็น BNB สูงสุด 200 ล้านโทเค็น ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2565 BNB 1 เหรียญ มีมูลค่าประมาณ 14,500 บาท เป็นโทเค็นที่ใช้บล็อคเชนที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับที่สี่ตามมูลค่าตลาด ที่ประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท

ซื้อขายบนBinance อย่างไร

Binanceให้บริการเกี่ยวกับการซื้อ-ขาย การลงรายการ การระดมทุน และการยกเลิกการลงรายการหรือถอนเงินเหรียญดิจิตอล รวมถึงผู้ใช้สามารถเปิดตัวโทเค็นของตัวเองได้ โดยสามารถใช้Binance เพื่อระดมทุนผ่านการเสนอเหรียญเริ่มต้น (ICO) ซึ่งในปัจจุบันBinance ถูกใช้โดยผู้ใช้จำนวนมากในการแลกเปลี่ยนและลงทุนในเหรียญดิจิตอลต่างๆ

ในการเริ่มต้นซื้อขาย ผู้ใช้ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด KYC ที่จำเป็น เมื่อสร้างบัญชีซื้อขายสำเร็จแล้ว ผู้ใช้สามารถเพิ่มเงินสกุลเงินดิจิทัลไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินสาธารณะซึ่งให้บริการโดย Binance เพื่อเริ่มทำการซื้อขาย-แลกเปลี่ยน Binanceรองรับคำสั่งการค้าสามประเภท คือ  Limit Order, Market Order, และ Stop-Limit Order ซึ่ง Limit Order จะถูกดำเนินการตามราคาจำกัดที่ผู้ซื้อขายกำหนดเท่านั้น Market Order จะดำเนินการทันทีที่ราคาตลาดที่ดีที่สุด ส่วน Stop-Limit Order จะกลายเป็นคำสั่งที่ถูกต้องเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดเท่านั้น

สามารถใช้คำสั่งซื้ออื่น ๆ อีกห้าประเภทสำหรับอนุพันธ์คริปโต โดยเฉพาะการซื้อ – ขายล่วงหน้า คำสั่งการซื้อ – ขายเหล่านี้ คือ

  1. Limit order
  2. Market order
  3. Stop limit order
  4. Stop market order
  5. Trailing stop order
  6. Post only order
  7. Limit TP/SL order 

ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับสกุลเงินดิจิทัลหรือเงินฝาก อย่างไรก็ตาม การถอนจะมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่แตกต่างกันไปตามสกุลเงินดิจิทัลและจำนวนเงิน

บริการอื่นๆของBinance มีอะไรบ้าง

จากบทความข้างต้น นอกจากบริการแลกเปลี่ยนเฉพาะBinance ยังมีเครื่องมือ ฟังก์ชัน และบริการอื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้

เดือนมีนาคม 2564Binance ได้มีการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัล BinanceCoin (BNB) ของแพลตฟอร์มเองผ่าน ICO ไตรมาสที่ 1 ปี 2565 BNB 1 เหรียญ มีมูลค่าประมาณ 14,500 บาท เป็นโทเค็นที่ใช้บล็อคเชนที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับที่สี่ตามมูลค่าตลาด ที่ประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท และถูกกำหนดให้กลายเป็นสกุลเงินประจำแพลตฟอร์มของ Binanceแบบกระจายอำนาจ (Decentralization)

BinanceEarn เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการปักหลักหรือรับดอกเบี้ยโดยการฝากเงิน Stablecoins กับการแลกเปลี่ยน ขึ้นอยู่กับเหรียญและอายุการแลกเปลี่ยนเสนอนักลงทุนหลายทางเลือกและอัตราดอกเบี้ยสำหรับเหรียญเหล่านี้

BinanceVisa Card เป็นบัตรเครดิตที่อนุญาตให้ผู้ใช้แปลงสกุลเงินดิจิทัลเป็นเงิน Fiat และใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์และบริการ แม้ว่าการแปลงจะไม่มีค่าธรรมเนียมการจัดการ แต่จะมีค่าธรรมเนียมของบุคคลที่สามในรูปแบบของค่าธรรมเนียมเครือข่ายการชำระเงิน

พูลอัจฉริยะของBinance ช่วยให้นักขุดสามารถสลับไปมาระหว่างสกุลเงินดิจิตอลต่างๆ สำหรับการขุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มรายได้ของพวกเขา

มีศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีบล็อคเชนที่เรียกว่า Binance Labs ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงการก่อนจะ ICO ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นที่นิยม แล็ปนี้ช่วยทีมพัฒนาโดยการจัดหาเงินทุนที่จำเป็นสำหรับการพัฒนา แหล่งข้อมูลและที่ปรึกษา และ Launchpad สำหรับรายการที่จำเป็นและการระดมทุน

Binanceยังเสนอไซต์ที่เรียกว่า LaunchPad สำหรับการนำเสนอโครงการบล็อกเชนใหม่ และอินเทอร์เฟซ API ซึ่งในเดือน มีนาคม 2564 มีการเปิดตัวถึง 42 โครงการ

Credit by : ทางเข้า Ufabet Ufabet Ufabet เว็บหลัก สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์

Credit by : Ufabet